บ้าน

ในเนื้อหาของบทความนี้ เราจะกล่าวถึงความสำคัญของ บ้าน และประเภทของบ้าน หรือที่อยู่อาศัยที่มีความหมายใกล้เคียงกัน โดยเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการให้ความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเอง จะมีใจจจความสำคัญยังไงกันบ้าง มาดูกันเลย

หากพูดถึง บ้าน เราก็คงจะคิดถึงสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกมีความสุขตลอดเวลาที่อาศัยอยู่ ในความเข้าใจของหลายๆ คน ได้ให้คำนิยามแตกต่างกันออกไป บ้างคนก็นิยามไว้ว่า เป็นที่อยู่อาศัย เป็นสิ่งปลูกสร้างที่มนุษย์สร้างขึ้นเอง เอาไว้สำหรับนอนพักผ่อน ซึ่ง ทุกอย่างที่ผู้คนได้ให้คำนิยามไว้ ก็ต่างมีความหมายในแต่ละมุมมองแตกต่างกันออกไป

เราก็เช่นกัน เราให้คำนิยามของคำว่า “บ้าน” ไว้ว่า คือ สิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อใช้ในการอยู่อาศัย แบบชั่วคราว หรือแบบถาวร คือสิ่งที่ทำให้ผู้ที่อยู่ มีความสุข มีความสะดวกสบายมากขึ้น และ ยังเป็นสิ่งที่บงบอกถึงฐานะทางการเงิน ชื่อเสียงเงินทอง ทำให้รู้ถึงความรวยของผู้ที่ครอบครองเลยก็ว่าได้

ความหมายดีๆ ของ บ้าน

คนเราทุกคน อยากมีบ้านเป็นของตนเอง ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะอะไร เพราะบ้านเป็นสถานที่ส่วนบุคคล ที่สร้างความสุข ความผ่อนคลาย และเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในครอบครัว ควรเป็นสถานที่แห่งความอบอุ่น เป็นที่ที่ทำให้คนในครอบครัวนึกถึง และอุ่นใจที่ได้อยู่ และเป็นแหล่งพักพิงที่ทำให้รู้สึกปลอดภัยมากที่สุด

ความสำคัญของบ้าน มีดังนี้

  • 1. เป็นรากฐานของสังคม
    เพราะบ้าน เป็นเหมือนแหล่งบ่มเพาะอุปนิสัยของบุคคล ความประพฤติที่ดีงามให้กับคนในครอบครัว เพื่อทำให้เป็นประชากรที่ดีของสังคมต่อไป
  • 2. เป็นส่วนหนึ่งในชุมชน
    บ้านทุกหลังที่ได้ก่อสร้างมานั้น จะต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานภาครัฐ เพื่อความเป็นระเบียบของชุมชน และทุกบ้านจะมีทะเบียนบ้านที่ระบุ สถานที่ตั้งและเลขที่บ้าน ตามระเบียบ ตามกฎหมาย ซึ่งเป็นการส่งเสริมความมั่นคงของชีวิตในฐานะเป็นพลเมืองดี และเสริมสร้างความดีงามแก่จิตใจ
  • 3. เป็นที่อยู่ที่ให้ความปลอดภัย
    บ้านจะช่วยป้องกันแสงแดด ฝน อากาศ สัตว์ร้าย หรือบุคคลที่แปลกหน้าที่เราไม่ต้อง การให้มาเกี่ยวข้องเรา เราจึงอาศัยอยู่ในบ้านได้อย่างปลอดภัย
  • 4. เป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่จำเป็นของคนเรา
    เป็นที่เราได้ทำกิจกรรมจำเป็นในชีวิตของคนเรา ได้แก่ กิน นอน ขับถ่าย ชำระร่างกาย เล่น ใช้ฝึกทักษะ การทำงานบ้าน เป็นต้น
  • 5. เป็นศูนย์รวมของสมาชิกทุกคน
    คนในบ้าน เป็นบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกัน อาจต่างรุ่น ต่างวัย และมีความสัมพันธ์กันคือ พ่อแม่ พี่น้อง ญาติสนิท หรือบางบ้านอาจอยู่ร่วมกันกับเพื่อนสนิท หรือคนอื่นๆ

ตัวอย่างประเภทของ บ้าน 5 ประเภทที่นิยมในปัจจุบัน

บ้าน มีหลายประเภท อาทิเช่น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม ตึกแถว อะพาร์ตเมนต์ ฯลฯ ในแต่ละประเภทก็จะมีรูปแบบ มีสไตล์แตกต่างกันออกไป และในเนื้อหาของบทความนี้ เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับ ประเภทของบ้าน รูปแบบต่างๆ ที่มีความนิยมในยุดสมัยนี้ จะมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย

ประเภทของบ้าน 5 ประเภทที่เราได้นำมาแนะนำ เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งของอีกหลายๆ ประเภท ที่มีอยู่บนโลกใบนี้

  1. บ้านเดี่ยว (Single Detached House) มีลักษณะเป็นบ้านที่มีทุกส่วนของบ้านไม่ติดกับบ้านหลังอื่น มักจะมีการล้อมรั้วรอบบ้าน เป็นบ้านที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด
  2. บ้านแฝด (Semi-Detached House) มีลักษณะ เป็นเหมือนบ้านสองหลังที่มีด้านใดด้านหนึ่งติดกัน แต่ปัจจุบันได้มีการออกแบบตัวบ้านให้ไม่ติดกันทั้งด้าน
  3. ทาวน์เฮาส์ (Townhouse) มีลักษณะเป็น บ้านแถว หรือ ตึกแถว ที่มีรูปแบบหน้าตา การออกแบบเหมือนกัน ส่วนตัวบ้านอยู่ติดกัน เป็นแถวตั้งแต่ 2 คูหาขึ้นไป ความสูงไม่เกิน 4 ชั้น
  4. ทาวน์โฮม (Town Home) มีลักษณะเป็น บ้านแถวที่ยกระดับมาจากทาวน์เฮ้าส์อีกระดับหนึ่ง โดยเป็นบ้านแถว หรือ ตึกแถว ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเดี่ยวขึ้นมาอีกระดับ
  5. คอนโดมิเนียม (Condominium) หรือ อาคารชุด มีลักษณะเป็นที่อยู่อาศัยอีกรูปแบบหนึ่ง ที่เจ้าของคอนโดจะต้องแบ่งกรรมสิทธิ์ หรือ ความเป็นเจ้าของ ร่วมกับเจ้าของห้องคนอื่น ๆ ออกเป็นส่วนๆ ในพื้นที่ส่วนกลาง

1. บ้านเดี่ยว (Single Detached House)

บ้านเดี่ยว” หรือเรียกในภาษาอังกฤษว่า Single Detached House ซึ่ง “บ้านเดี่ยว” ถือว่าเป็นบ้านในฝันของใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะคนที่กำลังจะสร้างครอบครัว ที่ต้องการพื้นที่รอบบ้าน มีความเป็นส่วนตัว พื้นที่ใช้สอยมาก และยังสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ภายนอก และ ภายในตัวบ้านได้ตามใจเจ้าของบ้าน

บ้าน เดี่ยว (Single Detached House)
https://www.areeya.co.th/singlehome/areeya-como-primo-bangna-wongwaen/

นอกจากคำว่า “บ้านเดี่ยว” จะเป็นชื่อเรียกที่ได้ยืนกันจนคุ้นหูแล้ว บ้านเดี่ยวยังเป็นประเภทบ้านที่ถูกระบุไว้ตามพระราชบัญญัติบ้านจัดสรร ด้วยว่า บ้านเดี่ยว คือ บ้านที่จะต้องสร้างอยู่บนที่ดินขนาดตั้งแต่ 50 ตารางวาขึ้นไป โดยให้มีการเว้นระยะห่างรอบตัวบ้านทุกด้านไม่ต่ำกว่า 2 เมตร หากบ้านที่ไม่ใช่ลักษณะดังกล่าวนี้ จะไม่เรียกว่าบ้านเดี่ยวนั่นเอง

2. บ้านแฝด (Semi-Detached House)

“บ้านแฝด” หรือเรียกในภาษาอังกฤษว่า Semi-Detached House ซึ่ง “บ้านแฝด” มีรูปแบบ ลักษณะเป็นการออกแบบให้มีโครงสร้างผนังด้านใดด้านหนึ่งติดกัน ซึ่งเป็นแบบบ้านที่นิยมในหลายโครงการ

บ้านแฝด (Semi-Detached House)
https://www.homenayoo.com/baanbaan-vibhavadi-20/

ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร (พ.ศ. 2522) คำว่า “บ้านแฝด” คือ อาคารที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยก่อสร้างติดกันสองบ้าน มีผนังแบ่งอาคารเป็นบ้าน มีที่ว่างระหว่างรั้วหรือแนวเขตที่ดินติดกับตัวอาคารด้านหน้า ด้านหลัง และด้านข้างของแต่ละบ้าน และมีทางเข้าออกของแต่ละบ้านแยกจากกันเป็นสัดส่วน โดยมีขนาดที่ดินไม่น้อยกว่า 35 ตร.ว. โดย บ้านแฝด ต้องมีที่ว่างด้านหน้าและด้านหลังระหว่างรั้วหรือแนวเขตที่ดินกับแนวผนังอาคารกว้างไม่น้อยกว่า 3 เมตร และ 2 เมตร ตามลำดับ และมีที่ว่างด้านข้างกว้างไม่น้อยกว่า 2 เมตร

3. ทาวน์เฮาส์ (Townhouse)

ทาวน์เฮาส์หรือเรียกในภาษาอังกฤษว่า Townhouse ซึ่ง ทาวน์เฮาส์” มีลักษณะเป็น บ้านแถว หรือ ตึกแถว ที่มีรูปแบบหน้าตา การออกแบบเหมือนกัน ส่วนตัวบ้านอยู่ติดกัน เป็นแถวตั้งแต่ 2 คูหาขึ้นไป ความสูงไม่เกิน 4 ชั้น

ทาวน์เฮาส์ (Townhouse)
https://bbs-property.com/บ้านน่าอยู่/ทาวน์โฮมกับทาวน์เฮ้าส์/

ทาวน์เฮาส์ (Townhouse) คือ บ้านที่มีหน้าตาคล้ายๆ กัน ปลูกเรียงในแนวเดียวกัน หรือที่เราคุ้นชินกันว่าเป็นบ้านแถวที่มีพื้นที่กั้นระหว่างบ้านเป็นกำแพงเดียวกันนั่นเอง ซึ่งบ้านทาวน์เฮ้าส์ส่วนมากจะนิยมสร้างให้มีความสูงไม่เกิน 2 ชั้น จุดเด่นของทาวน์เฮ้าส์ คือรูปแบบสังคมขนาดเล็ก ให้ความรู้สึกที่อบอุ่นด้วยพื้นที่ใช้สอยที่ถูกออกแบบมาได้อย่างคุ้มค่ากับราคาเบาๆ ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยแบบครอบครัวขนาดเล็ก และมักไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น สโมสร สระว่ายน้ำ หรือพื้นที่ส่วนกลาง

4. ทาวน์โฮม (Town Home)

ทาวน์โฮม หรือเรียกในภาษาอังกฤษว่า Town Home มีลักษณะเป็นเหมือนบ้านแถวที่ถูกยกระดับ มาจากทาวน์เฮ้าส์ อีกหนึ่งระดับ โดยจะเป็นบ้านแถว หรือ ตึกแถว ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเดี่ยวมากขึ้นมาอีกระดับ

ทาวน์โฮม (Town Home)
https://andamanassetsolution.com/the-residence/#gallery

ทาวน์โฮม กับ ทาวน์เฮ้าส์ ต่างกันอย่างไรจึงขอสรุปแบบง่ายๆ ได้ว่า ทาวน์โฮม (Townhome) ก็คือ ทาวน์เฮ้าส์ (Townhouse) ในเวอร์ชั่นอัปเกรด จากเดิมที่เป็นตึกแถวหรือบ้านแถวเรียงๆ กันก็อัปเกรดให้มีความรู้สึกใกล้เคียงกับบ้านเดี่ยวมากยิ่งขึ้น บ้านทาวน์โฮมจึงมีทั้งขนาด พื้นที่ใช้สอย และการออกแบบที่สวยงามกว่าบ้านทาวน์เฮ้าส์ The-residence by Andamanassetsolution

5. คอนโดมิเนียม (Condominium)

คอนโดมิเนียม หรือเรียกในภาษาอังกฤษว่า Condominium หรือ อาคารชุด มีลักษณะเป็นที่อยู่อาศัยอีกรูปแบบหนึ่ง ที่เจ้าของคอนโดจะต้องแบ่งกรรมสิทธิ์ หรือ ความเป็นเจ้าของ ร่วมกับเจ้าของห้องคนอื่น ๆ ออกเป็นส่วนๆ ในพื้นที่ส่วนกลาง

คอนโดมิเนียม (Condominium)
https://www.kobkid.com/market/116246

คอนโด เป็นทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตและจดทะเบียนภายใต้พระราชบัญญัติอาคารชุด สำหรับ อพาร์ทเม้นท์ เป็นสิทธิ์การเช่าถือครองอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาว หรือ Leasehold มีความหมายเดียวกับคำว่า “เซ้ง” 

ตามพระราชบัญญัติอาคารชุด เจ้าของคอนโดจะได้รับโฉนดที่ดินซึ่งพวกเขาอาจขายหรือโอนให้ผู้อื่นตามที่เห็นสมควร เมื่อทรัพย์ได้จดทะเบียนภายใต้พระราชบัญญัติอาคารชุด ลูกค้าจะไม่ได้รับความคุ้มครองมากนัก เพราะการกำกับดูแลอาคารเป็นการดูแลจัดการโดยเจ้าของทุกคน 

เนื้อหาข้างต้นที่ได้กล่าวมา เป็นเนื้อหาที่ผู้เขียนได้รวบรวมมากจากหลากหลายเว็บไซต์

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : https://phuket.house/ประเภทของบ้าน / : https://phukets.online/home/ / :