บ้านโมเดิร์นสีดำ

บ้านโมเดิร์นสีดำ ความสวยที่มองไม่เบื่อ

บ้านโมเดิร์นสีดำ บ้านสีดำเข้ม ที่มีธรรมชาติถักทออยู่ด้านในภายโมเดิร์นสีดำ มีคอร์ดยาร์ทสีเขียวจำเป็นต้องสารภาพว่า “ความเป็นส่วนตัว” เป็นสิ่งที่เจ้าของบ้านไหนๆก็อยากได้ แต่ว่าถ้าหากปิดตัวบ้านทั้งหมดทั้งปวง ผู้ที่อยู่ในบ้านกลับจะคิดว่าตนเองถูกขังเอาไว้ด้านใน โดยเหตุนี้ทางที่ดีเป็นมัชฌิมาปฏิปทา ป้ายความผิดสมดุลระหว่างความเป็นส่วนตัวรวมทั้งการเปิดความสัมพันธ์กับบริบทล้อมรอบแบบพอดิบพอดี น่าจะเป็นคำตอบที่ใช้ได้ในชีวิตจริง เสมือนดังเช่นว่าบ้านนี้ เนื่องมาจากบ้านข้างหลังเล็กๆซึ่งราวกับบ้านคู่แฝดส่วนมากในประเทศสิงคโปร์มักอยู่ติดถนนหนทางรวมทั้งอัดแน่นไปด้วยบ้านใกล้กัน ก็เป็นการยากที่จะรักษาให้มีความเป็นส่วนตัวในระดับหนึ่ง ในขณะยังอยากได้เปิดรับความเขียวชะอุ่ม การถ่ายเทอากาศ 

รวมทั้งแสงสว่างธรรมชาติอยู่ ความรู้สึกต้องการปิดแต่ว่าก็ต้องการเปิดนี้ดูเหมือนยาก แม้กระนั้นนักออกแบบ AR43 Architects ก็ตอบปัญหากลุ่มนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมตัวบ้านได้รับการออกแบบให้เป็นกล่องสูงสีดำสนิท ซึ่งทำมาจากคอนกรีตสร้าง Texture เหมือนลายไม้ข้างนอก เป็นฟอร์มสี่เหลี่ยมที่มองแข็งแกร่งเข้มแข็ง แม้กระนั้นในเวลาเดียวกันมีพื้นที่สีเขียวล้นหลามถักทอเข้ามาในพื้นที่ด้านใน ทำให้บ้านที่มองแข็ง Soft ลงในทันทีทันใด ข้างหน้าแม้ว่าจะดูราวกับว่าปิดทั้งยังข้างบนด้านล่าง แม้กระนั้นที่จริงแล้วทั้งคู่ชั้นจะมีช่องเปิดขนาดใหญ่หลบซ่อนอยู่ โดยคนเขียนแบบใช้แนวทางเจาะช่องว่างอีกทั้งบนหลังคา ฝาผนัง เล็กบ้างใหญ่บ้าง เป็นระยะทั่วทั้งยังบ้าน และก็การใส่ฟาซาดเป็นวัสดุทางสถาปัตยกรรมสำหรับการควบคุมระดับความเป็นส่วนตัว แนวทางรวมทั้งจำนวนแสงสว่าง และก็การถ่ายเทอากาศ บ้านจัดสรร

ต้องการเป็นเพื่อนกับธรรมชาตินั้นไม่ยากเลย 

พวกเราสามารถแบ่งปันพื้นที่กันได้ตั้งแต่หน้าบ้าน รอบๆหลังคาโรงรถที่พอเพียงสำหรับใช้งานแล้ว ยังยื่นยาวออกมาข้างๆคณะทำงานก็กระทำการเจาะเป็นช่องลายกราฟฟิค ปลดปล่อยให้ต้นไม้ที่ปลูกไว้เติบโตทะลุขึ้นไปสร้างร่มเงา พร้อมๆกับเปิดพื้นที่ให้แสงสว่างแล้วก็ลมเดินทางสบายๆเพื่อความเป็นส่วนตัว ตัวตึกขยับร่นเข้าไปห่างจากถนนหนทางรวมทั้งถูกเอาขึ้นจากระดับพื้นดิน ต่อจากนั้นจะมีพื้นที่สีเขียว สระ ปฏิบัติภารกิจเป็นตัวกันระหว่างด้านในแล้วก็ด้านนอก คุ้มครองพื้นที่ข้างในจากเสียงดัง

รบกวนจากถนนหนทางและก็ผู้เดินทางไปๆมาๆได้ดิบได้ดี ด้วยขนาดพื้นที่ที่ไม่มากมายนักออกแบบก็เลยใช้สิ่งของกระจกรอบๆ ทำให้เส้นแบ่งระหว่างข้างในและก็ข้างนอกถูกเบลอเข้าด้วยกัน พร้อมด้วยนำแสงสว่างธรรมชาติที่ดีเข้ามารวมทั้งเพิ่มช่องทงการระบายอากาศ ในพื้นที่ที่อยากความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น จะมีที่บังแดดที่ช่วยกรองแสงสว่างไปด้วยในตัว รวมทั้งปกปิดพื้นที่ด้านในออกมาจากสายตาของบ้านเพื่อนบ้านเพิ่มความเงียบสงบดวงใจในบ้านด้วยสวนส่วนตัวเล็กๆสไตล์ ZEN เป็นสวนที่มีก้อนกรวดสีขาว หิน มอส ตกแต่งไฟ ดูทีไรก็ทำให้จิตใจนิ่ง

เลย์เอาต์เปิดเตียนของบ้านสะท้อนให้มองเห็นถึงการต้อนรับที่อบอุ่น และก็ไลฟ์สไตล์ของเจ้าของที่ประทับใจอิสรภาพ มีความชอบธรรมชาติสบายๆทำให้แบบแปลนข้างในเน้นย้ำความลื่นไถลไหล มีความยืดหยุ่น สร้างสเปซกว้างใหญ่เพื่อรองรับแขกได้บ่อย พื้นที่ด้านในแล้วก็ด้านนอกที่ไหลเวียนได้ดิบได้ดีผ่านประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่รอบบ้าน แปลนบ้านจัดสรรทำให้แขกมีความสัมพันธ์กันได้ราบรื่นแม้ว่าจะมาพร้อมเป็นกรุ๊ปใหญ่ก้ไม่ทราบสึกว่าบ้านแออัดคับแคบ ขณะที่มุมเล็กๆที่เงียบกว่านั้น จะจัดไว้สำหรับเพื่อนเกลอคนพิเศษแค่นั้นฟาซาดหน้าบ้านที่ข้างบนเป็นครีบทำมาจากไม้แผ่นเรียงหน้าจนกระทั่งเต็มพื้นที่ สามารถเลือกองศาที่จะเปิดหรือปิดได้ตามเหตุการณ์ 

ยิ่งกว่านั้นยังมีต้นไม้รากอากาศปลูกแขวนห้อยลงมาช่วยกรองแสงสว่าง กรองอากาศ ฝุ่นละออง ควัน แล้วก็เป็นด่านบังสายตาแบบธรรมชาติจากสวนบนชั้นสองจะมีบันไดเวียนนำทางขึ้นมาถึงข้างบนสุด ซึ่งมีหลังคาจั่วเฉปกคลุมอยู่ ดูไกลๆราวกับการพับกระดาษโอริกาไม่ มีพื้นที่เปิดเตียนบนดาดฟ้าที่ต่อเชื่อมกับหลังคาบ้านจัดสรร ซึ่งขยายพื้นที่จากห้องรับแขกสำหรับครอบครัวที่กบดานอย่างสงบเงียบอยู่ใต้หลังคา เป็นที่ที่ผู้ครอบครองสามารถเพลินใจกับการจับมเหสีมบ่าย รับลมเย็นๆทิวทัศน์เมืองงามๆ 

เวลาที่คอยดูทิวทัศน์ดวงอาทิตย์ที่เบาๆตกดินแบบพาโนรามาในเวลาส่วนตัว ผู้ครอบครองซึ่งเป็นวิศวกรที่ปลดเกษียณแล้ว จะใช้เวลาจำนวนมากในห้องฝึกซ้อมดนตรี ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรีหลายชนิด เป็นหลักที่เก็บสะสมคอลเลกชันส่วนตัวของเขา ที่จะตอบสนองสิ่งที่มีความต้องการของลูกค้า สตูดิโอก็เลยวางแบบโดยคิดถึงการดูดซึมเสียง ลดเสียงดังรบกวน เพื่อสามารถแสดงแล้วก็อัดเสียงได้โดยไม่มีเสียงด้านนอกเข้ามา และไม่มีเสียงลอดออกไปก่อกวนเพื่อนบ้าน

แนวทางการทำห้องสตูดิโอสำหรับฝึกซ้อมดนตรีหรือห้องอัดเสียง จะไม่เสมือนห้องอื่นๆในบ้าน ด้วยเหตุว่าสิ่งที่เป็นหัวใจหลักเป็น “ความเงียบ ” จะต้องไม่มีเสียงดังรบกวนอะไรก็ตามซึ่งฝาผนังบ้านธรรมดาแม้ว่าจะก่อสร้างด้วยสิ่งของที่มีคุณลักษณะคุ้มครองปกป้องเสียงดังรบกวนระดับหนึ่ง ก็ยังไม่อาจจะทำห้องฝึกซ้อมรวมทั้งอัดเสียงได้ เนื่องจากอาจมีเสียงกังวานสะท้อนข้างใน แล้วก็มีเสียงอุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรีเล็ดลอดออกไปด้านนอก จำเป็นต้องใช้สิ่งของอะคูสตำหนิกที่มีคุณลักษณะสำหรับเพื่อการกันเสียง บุข้างในฝาผนังเพื่อคุ้มครองเสียงจากข้างนอกไม่ให้เข้ามาก่อกวนข้างใน มีสิ่งของอะคูสติเตียนกช่วยดูดซึมเสียง ลดเสียงสะท้อนกลับ เพื่อควบคุมประสิทธิภาพเสียงข้างในห้องให้มีความแหลมคมชัดเพิ่มขึ้นด้วย นอกเหนือจากนั้นประตูก็จะต้องเป็นบานผลัก 2 ชั้นจัดตั้งสิ่งของรองให้แน่น ไม่ให้มีเสียงดังขณะเปิดปิด

บ้านหลังคาจั่ว ไม่ใช่แค่งาม แม้กระนั้นช่วยลดภาระหน้าที่ให้โลกบ้านหลังคาจั่วโมเดิร์น

การใช้ชีวิตในโลกที่มีเต็มไปด้วยพิษที่ลอยละล่องอยู่ในบรรยากาศ ซึ่งก็มาจากความสามารถมนุษย์เราทั้งหมด ทำให้เวลานี้ผู้คนมองหาแนวทางที่จะรับผิดชอบต่อโลกด้วยการลดการปลดปล่อยก๊าซพิษให้ลดลง ประหยัดพลังงานในบ้านให้เหลือศูนย์กันมากยิ่งขึ้นเพื่อลดภาระหน้าที่ให้กับโลก ที่ประเทศอิตาลีก็มีโปรเจ็คอย่างงี้ผุดขึ้นมาด้วยเหมือนกัน แผนการนี้มีการปรับแต่งตึกที่มีอยู่แล้วให้เป็น Passive House หรือบ้านใช้พลังงานน้อยลงอ้างอิงตามหลักมาตรฐานสากลสำหรับตึกจีรังยั่งยืนที่มีการใช้พลังงานใกล้เคียงกับศูนย์ ซึ่งเป็นสิ่งใหม่ใหม่ที่ค่อนข้างจะใหม่ในอิตาลีบ้านจัดสรร

Passive House แผนการอัพเกรดตึกที่ชำรุดทรุดโทรม

 โดยกำหนดเป้าหมายที่การประหยัดพลังงานรวมทั้งการปลดปล่อยมลภาวะในชั้นบรรยากาศพร้อมๆไปกับการปรับปรุงแก้ไขส่วนประกอบของตึก ซึ่งมีที่อยู่ที่อาศัยของดีไซน์เนอร์แล้วก็สตูดิโอดำเนินงานของคนเขียนแบบที่จะมากขึ้นมา การออกแบบและก็กระบวนการเปลี่ยนแปลงใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างที่เป็นของใหม่ใหม่ เพื่อบ้านมีคุณภาพสูงสุด ลดทุนให้เยอะที่สุด ตัวตึกจะมีส่วนประกอบผสมระหว่างไม้ 

(ไม้อัดลาเมลลาร์และก็ CLT) เหล็ก แล้วก็คอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งจะเน้นย้ำให้สิ่งของแต่ละจำพวกจะปฏิบัติงานเจริญที่สุดตามลักษณะทางธรรมชาติ ในขณะเงินลงทุนการก่อสร้างของตึกยังคงอยู่ในระดับตลาดโดยไม่ตัดทอนประสิทธิภาพอะไรก็แล้วแต่ข้างหลังการปรับแก้พื้นที่นักออกแบบทำฟาซาดข้างหน้าใหม่ที่เปลี่ยนรูปลักษณ์บ้านไปในทันที และก็ทำปากทางเข้าใหม่ที่สบายขึ้น เพิ่มตึกใช้งานเป็นสถานที่ทำงานข้างหน้า พื้นจากที่เป็นดินเปียกชื้นๆกลายเป็นคอนกรีตรวมทั้งจัดสวนเล็กๆpool villas
ความร้อนในตึกส่วนมากมีเหตุที่เกิดจากความประพฤติปฏิบัติของผู้คน ที่จำเป็นต้องเครื่องใช้สอยต่างๆรวมทั้งสร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นชั้นบรรยากาศโดยไม่ทันได้รู้สึกตัว แม้กระนั้นก็ไม่อาจจะหยุดใช้พลังงานได้ เพราะฉะนั้นแนวทางที่ตึกทำเป็นเป็น บ้านจัดสรร

สร้างพลังงานสะอาดใช้เอง ดังเช่น การต่อว่าดตั้งโซล่าร์เซลล์ ในบ้านข้างหลังนี้ทำหลังคาจั่วสูง มีฝาผนังกระจกที่รับแสงสว่างได้มากกลางวันแล้วก็เปิดระบายอากาศได้กว้าง ซึ่งดำเนินการพร้อมกันกับระบบการระบายอากาศเชิงกลที่จัดตั้งไว้ภายในบ้าน ซึ่งจะปฏิบัติหน้าที่ระบายความร้อน รวมทั้งปรับประสิทธิภาพของอากาศให้สะอาดขึ้นก่อนปลดปล่อยออกสู่ข้างนอก ลดอากาศเหม็นสาบด้านใน นอกเหนือจากการใช้พลังงานใกล้ศูนย์แล้ว Passive House ยังค้ำประกันความสบายสบายในระดับที่ถือว่าสูงเมื่อเทียบกับตึกแบบเดิมในส่วนที่อยู่ที่อาศัยจะอยู่ในตึก 3ชั้น ข้างหลังphuket village 

บนชั้นสองมีโถงบันไดลงสีขาวสะอาดตา ฝาผนังข้างๆเป็นกระจกใสทำให้แสงสว่างผ่านได้ สุดปลายตึกทั้งคู่ด้านก็มีวิถีทางที่รับแสงสว่างเข้ามา ทำให้บ้านไม่มืดทึบ แต่ว่าจะสังเกตว่าในด้านที่ปรารถนาตัดทอนความร้ายแรงของแสงสว่างจะมีฟาซาดโปร่งๆอีกชั้น เพื่อในบ้านยังมีแสงสว่างแม้กระนั้นไม่ร้อนจนถึงเกินจำเป็นข้างในห้องนอนที่อบอุ่นเพราะเหตุว่าถูกหุ้มห่อด้วยไม้กระดานดูเหมือนจะทุกส่วน แม้ว่าจะเป็นห้องที่อยู่ใกล้กับหลังคาแต่ว่าไม่ร้อนอย่างที่คาด เนื่องจากว่าฝ้าเพดานตีตามแนวหลังค้างก็เลยมีพื้นที่ให้อากาศร้อนลอยตัวขึ้น ระหว่างข้างหลังตากับฝ้าเพดานจัดตั้งฉนวนกันความร้อน ข้างหลังห้องเป็นระเบียงมีฟาซาดระแนงด้วยบดบังแสงสว่าง ประตูกระจกเปิดออกระบายอากาศได้มาก ทำให้แต่ละวันที่พักผ่อนพักเต็มไปด้วยความสบาย