ไม้ที่นิยม นำมาสร้างบ้าน ไม้ ปัจจุบันแบ่งออกเป็นหลากหลายประเภทphuket property โดยได้จำแนกตามคุณลักษณะและชนิดของไม้ ยกตัวอย่างเช่น ไม้เนื้อแข็ง มีข้อดีในเรื่องความแข็งแรงนิยมนำมาใช้ในการวางโครงสร้างบ้านจำพวก เสา พื้น และคาน ด้านไม้เนื้ออ่อนโดดเด่นในเรื่องความยืดหยุ่น มีโทนสีที่จางกว่าไม้เนื้อแข็ง นิยมนำมาตกแต่งเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ บ้านจัดสรร
ไม้ที่นิยม นำมาสร้างบ้าน ให้น่าอยู่และสวยงาม
ปัจจุบันตลาดวัสดุก่อสร้างได้มีการพัฒนาไม้ให้ออกมาในหลากหลายรูปแบบสำหรับการตกแต่งบ้าน ไม่ว่าจะเป็น เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง รวมทั้งวัสดุก่อสร้างสำเร็จรูปต่างๆ เช่น ไม้ฝา ระแนงไม้ เป็นต้น phuket property
ข้อดีของการสร้างบ้านไม้
- แม้ไม้จะมีคุณสมบัติป้องกันความร้อนได้ไม่ดีนัก แต่ก็ถ่ายเทความร้อนได้รวดเร็ว บ้านที่ปลูกสร้างด้วยไม้จึงเย็นสบาย ไม่อบอ้าว เป็นคุณสมบัติที่วัสดุอื่นๆ ทําไม่ได้ เหมาะกับสภาพอากาศเมืองร้อนชื้นแบบไทย บ้านจัดสรร
- ไม้มีเสน่ห์เฉพาะตัวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นสีสันลวดลายที่ไม่ซ้ํากันในแต่ละแผ่นหรือท่อน ผิวสัมผัสที่ให้ความรู้สึกถึงธรรมชาตินุ่มนวล ไม้จึงเป็นวัสดุในอุดมคติของทั้งเจ้าของบ้านและนักออกแบบตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
- ในเรื่องของความแข็งแรง หากเกิดแผ่นดินไหว บ้าน ไม้จะมีความยืดหยุ่น คงทน และแข็งแรง
- อย่าเข้าใจผิดว่าบ้านไม้เป็นสิ่งทำลายธรรมชาติ เพราะไม้เมื่อนำมาใช้แล้วเราสามารถกลับไปปลูกทดแทนได้ ต่างจากบ้านปูนที่จะได้มาต้องระเบิดภูเขา
ข้อเสียของการสร้างบ้านไม้
- บ้านไม้ก็มักจะมีปัญหาเรื่องของปลวก และแมลงต่างๆที่มากัดกินไม้ จึงจำเป็นที่จะต้องดูแลรักษาไม้เป็นพิเศษ
- มักจะมีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดเวลาเดิน อาจดูวังเวงในเวลากลางคืน
- การหาช่างฝีมือที่มีความชำนาญในงานไม้นั้นยาก ถ้าหาได้ช่างไม่ดีคุณอาจจะเสียค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากๆขึ้นเท่าตัว
- วัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างบ้านไม้มักจะแพง เนื่องจากไม้มีราคาที่ค่อนข้างสูงพอสมควร ยิ่งไม้เนื้อดีๆ ไม้เนื้อแข็ง ก็ยิ่งมีราคาแพง
- ตัววัสดุมีการยืด – หดตามสภาพอากาศ บางครั้งจึงเกิดปัญหาบ้านรั่วซึมระหว่างช่องว่างของไม้ได้
ข้อแนะนำ
อีกทางเลือกหนึ่งในการประหยัดค่าใช้จ่ายในการสร้างบ้าน ไม้ คือ การสร้างบ้านไม้ผสมกับวัสดุอื่นๆ จะช่วยลดราคาค่าก่อสร้างได้มาก เช่น บ้านที่ชั้นล่างเป็นปูนและชั้นบนเป็นไม้ หรืออาจหาซื้อ บ้านไม้เก่า แล้วรื้อเอาไม้มาใช้ก่อสร้างบ้านใหม่ ก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ เช่นกัน งานไม้โครงสร้าง หรือ งานภายนอกควรใช้ไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้เต็ง ไม้แดง และ ไม้ประดู่เท่านั้น เพราะมีความแข็งแรงสามารถรับแรงได้ดี อีกทั้งยังทนทานต่อการผุ ส่วนไม้สักถือเป็นไม้เนื้ออ่อน ไม้ทนแดด แต่ทนทานต่อการผุมาก เหมาะสําหรับงานภายในหรืองานเฟอร์นิเจอร์มากกว่า
การเลือกไม้มาใช้งานที่เหมาะสม ต้องคำนึงสิ่งต่อไปนี้
1. เป็นไม้ที่หดตัวผึ่งแห้งเรียบร้อย เมื่อน้ำมาประกอบต้องไม่อ้า หรือเกิดการโค้งงอ
2. ต้นไม้ต้องมีความสมบูรณ์ โดยมีเจริญเติบโตที่เหมาะสมกับสภาพอากาศที่ปลูก เป็นไม้ตายที่ยืนต้น
3. ไม่มีรอยแตกร้าว หรือรอยทะลุ
4. เลือกไม้ที่ราคาไม่แพงจนเกินไป
5. มีลายไม่สวยที่เหมือนกัน
6. เลือกไม้เนื้อละเอียดที่มีความเหนียวแน่น มีแนวตรง ขัดมัน และชักเงาได้ดี
7. ไม้ต้องมีเสียงแน่นเวลาเคาะ เพราะหากเคาแล้วมีเสียงผลุๆ แสดงว่าว่าเป็นไม้ที่ผุไม้เหมาะสมแก่การใช้งาน
8. มีสีสวยสม่ำเสมอทุกแผ่น
บ้านไม้ ถือเป็นอีกหนึ่งควาสวยที่เป็นเอกลักษ์ และแฝงไปด้วยความอบอุ่น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ด้วยสภาพอากาศประเทศไทยที่มีฝนตกชุก และอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย จึงทำให้หลายคนเกิดความกังวล ว่าการสร้างบ้านไม้จะได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศเหล่านี้หรือไม่ ดีไม่ดีอาจเสียเงินค่าซ่อมที่เกือบสร้างบ้านใหม่ได้อีกหลัง ! เพื่อให้บ้านไม้ที่วาดฝันออกมาสวยอย่างมีคุณภาพ เรามีไม้แต่ละประเภทที่นิยมมาให้ชมกัน
1. ไม้เนื้อแข็ง
บ้านออกแบบอย่างโดดเด่นด้วยการใช้วัสดุก่อสร้าง อย่างเช่น ไม้เนื้อแข็ง โดยข้อดีของไม้ประเภทนี้คือมีความแข็งแรงสูงสามารถสร้างความอุ่นใจสำหรับการอยู่อาศัยด้วยความปลอดภัย นิยมนำมาใช้ในการวางโครงสร้างบ้านอาทิ เสา คาน เพดาน ตลอดจนการปูพื้น อย่างเช่นไอเดียบุคภาพนี้เป็นต้น โดยไม้เนื้อแข็งในประเทศไทยประกอบไปด้วย ไม้เต็ง ไม้รัง ไม้แดง ไม้ตะเคียนทอง ไม้ตะแบก ทั้งหมดสามารถหาได้ง่ายตามท้องตลาดวัสดุก่อสร้าง
2. ไม้เนื้อแข็งปานกลาง
อย่างไรก็ดีนอกจากไม้เนื้อแข็งไม้อีกหนึ่งประเภทที่ได้รับความนิยมในการนำมาสร้างบ้านเช่นกัน คือ ไม้เนื้อแข็งปานกลาง โดยไม้แบบนี้มีจุดเด่นในเรื่องโทนสีที่กลมกล่อม อย่างเช่น สีน้ำตาลอมแดงหรือสีแดงเข้มดังเช่นบ้านจากไอเดียบุคภาพนี้ ไม้เนื้อแข็งปานกลางนิยมนำมาตกแต่งบริเวณภายในหรือในที่ร่มจะทำให้บ้านดูสวยงามแบบคลาสลิค
ที่สำคัญให้อารมณ์และความรู้สึกอย่างอบอุ่นและใกล้ชิดกับธรรมชาติ สำหรับไม้ประเภทดังกล่าวในประเทศไทย ได้แก่ ไม้ชุมแพรก ไม้นนทรี ไม้กระบาก เป็นต้น
ไม้ทางเลือกวัสดุก่อสร้างจากธรรมชาติที่ครบถ้วนในการเติมเต็มบ้านและที่อยู่อาศัยให้สมบูรณ์ในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น สวยงาม แข็งแรง หาได้ง่ายตามท้องตลาด มีให้เลือกหลากหลายประเภท ซึ่งปัจจัยทั้งหมดจะทำให้ไม้ได้รับความนิยมต่อไปในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ต่อไป
3. ไม้เนื้ออ่อน
ถึงแม้จะเป็นประเภทไม้ที่มีความแข็งแรงไม่เท่ากับไม้เนื้อแข็ง แต่ข้อดีคือลวดลายเป็นธรรมชาติ ที่สวยงาม มักนิยมมาตกแต่งทำประตู หน้าต่าง ผนัง หรือเฟอร์นิเจอร์ มักใช้ ในการก่อสร้าง ในโครงสร้างหลังคา และผนังด้านใน ตลอดจนในส่วนประกอบอื่นๆ ของอาคาร เช่น อุปกรณ์ติดตั้งและส่วนประกอบ ประตู และอื่นๆ ที่สำคัญคือมีราคาไม่สูงมาก
4. ไม้ฝา
ไม้ฝา มาเป็นวัสดุหลักในการวางโครงสร้าง บ้านให้แข็งแรง สำหรับไม้ฝาที่ นำมาใช้ทำมาจากไม้เนื้อแข็งปูเรียงในลักษณะแนวนอนถอดยาวเต็มทั้งหลัง โทนสีของเนื้อไม้เมื่อสะท้อนกับ แสงแดดยกระดับบ้านให้ดูสวยงาม แบบคลาสลิคและมีรสนิยมไม่เหมือนใคร อย่างไรก็ดีข้อเด่นของไม้ฝาไม่ได้มีแต่ความสวยงาม ยังเด่นชัดในเรื่องความแข็งแรง ทนทานต่อทุกสภาพอากาศอีกด้วย ถือได้ว่าไม้ฝาเป็นหนึ่งทางเลือกที่ ได้รับความนิยมในการนำมาก่อ สร้างและตกแต่งบ้านในยุคปัจจุบัน
5. ไม้ซุง
ภาพไม้ซุงหลากหลายคนอาจ จะนึกถึงการวางเสาเข็ม แต่ปัจจุบันได้มีการแปรรูป มาเป็นวัสดุตกแต่งที่สวยงาม อย่างเช่น การจัดเรียงเป็นผนัง หรือการทำพื้นที่นอกชาน หรือ ระเบียงนอกบ้าน ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านทรงไทยที่เชื่อมพื้นที่ระหว่างภายนอกและภายใน
สามารถใช้ทำกิจกรรมได้หลากหลาย ข้อเด่นของไม้ซุงดูผิวเผินอาจจะหยาบ และแข็งกระด้าง ในทางกลับความไม่เท่ากันของขนาดสะท้อนให้เห็นถึงการตกแต่งที่เรียบง่าย เป็นธรรมชาติในสไตล์คันทรีได้อย่างนุ่มลึก
6. ไม้เทียม
ไม้เทียม โดยข้อดีของไม้ ประเภทดังกล่าวนั้นมีคุณสมบัติ อันโดดเด่นที่ทัดเทียมไม้จริง เช่น ทนทานต่อการเผาของไฟ ป้องกันการกัดกินของแมลงจำพวกปลวกได้ พร้อมรับทุกสภาพอากาศ สามารถเลื่อย ตัด เจาะ ขูดเสี้ยน ได้ง่ายเหมือนไม้ธรรมชาติ อย่างไรก็ดีมีราคาไม่สูง ไม่ต้องทาสี และไม่อุ้มน้ำ
นิยมนำมาตกแต่งบริเวณผนัง พื้น ฝา รวมทั้งระแนง พร้อมตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้อย่างครบถ้วน ที่สำคัญสะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาของตลาดวัสดุ ก่อสร้างในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ไม้เทียม หรือไม้สังเคราะห์ในปัจจุบันส่วนใหญ่ทำมาจากไฟเบอร์ซีเมนต์ ผงไม้ และ เม็ดพลาสติก ซึ่งมีความสวยงามรวมทั้งให้อารมณ์ และความรู้สึกไม่แพ้กับไม้จริงเลยทีเดียว
7 .ไม้บาง
ไม้ประเภทนี้เป็นไม่แผ่นบางความหนาไม่เกิน 3 มม.ทำมาจากการฝานเป็นแผ่นบางๆ จากต้นซุง นิยมนำมาตกแต่งบ้านตามจึดต่างๆ อาทิ ผนัง วัสดุปูพื้น รวมทั้งชิ้นส่วนตกแต่งเครื่องเรือนต่างๆ หรือผลิตเป็นเฟอร์นิเจอ์ มากกว่า เพราะมีความสวยงาม
อ่านบทความที่หน้าสนใจ : แบบบ้าน Villas Phuket รีวิวบ้าน phuket property บ้านเดี่ยว POOL VILLA บ้านจัดสรร PHUKET VILLA ขายวิลล่าภูเก็ต ขายบ้านภูเก็ต invest in phuket property phuket villa for saleรีวิวบ้าน ขายวิลล่าภูเก็ต ขายบ้านภูเก็ต ซื้อบ้าน ตกแต่งบ้าน