บ้านสวยๆ สไตล์ไทยประยุกต์ ทำแบบไหนดี
บ้านสวยๆ สไตล์ไทยประยุกต์ การสร้างอาคารบ้านเรือนไทยสมัยก่อน ยุคในแต่ละพื้นที่ มักมีลักษณะ ของงานสถาปัตยกรรม ที่แตกต่างกันออกไป สังกัดอิทธิพล ทางพื้นที่ ลักษณะอากาศ และก็ความนึกคิด เอามาก่อร่างสร้าง เรือนให้ละม้าย เหมาะสมกับการดำเนินชีวิต ของชุมชนนั้นๆ
บ้านไทย ในยุคเก่า ก็เลยมักมีรูปร่าง ขนาด ข้าวของ บริเวณใบหน้า และฟังก์ชัน การใช้แรงงาน ที่คล้ายคลึงกัน ตัวอย่างเช่น บ้านไทย สไตล์ล้านนาที่อยู่ใน เขตลักษณะภูมิอากาศครบ ทั้งยังร้อน ฝน Villa Phuket แล้วหลังจากนั้นก็ฤดูหนาว จะมีลักษณะ พิเศษเป็นเรือนไม้ มีใต้ถุนให้ลมไหล ผ่านระบายความชื้น รวมทั้งป้องกัน น้ำหลาก มีชานเรือน ให้นั่งพักผ่อน รับลม
บ้านไหน พอเพียงจะมี ฐานะ นิยมทำเป็นเรือนกาแล ตกแต่งตกแต่ง บ้านประณีต ซึ่งล้วนเป็น ภาพจำที่มีคุณค่า ถึงแม้ว่า เวลาจะผ่านมาเป็นร้อยปี ก็ยังมีผู้ที่ ชื่นชอบและดัดแปลง เป็นแรงกระตุ้น ประยุกต์ร่วม กับบ้านยุคสมัยใหม่ เนื้อหานี้ ขอตามใจ แฟนบ้านสไตล์ ไทยล้านนา เก็บรวบรวม ลักษณะเด่นของ ประเทศเหนือมาฝากกันครับผม
ลักษณะบ้านไทยประยุกต์สไตล์ล้านนา
บ้านเป็นสิ่ง ที่สะท้อนถึงสภาวะ ของพื้นที่ สังคม และวัฒนธรรมที่แฝงอยู่ ในทรงแล้วก็แผนผัง ของอาคาร บอกให้เห็นภาพกิจกรรมต่างๆของคนเราที่ อาศัยอยู่ ซึ่งแต่ละภูมิภาค ของโลกก็มีระบบระเบียบกรรมวิธีการ ก่อสร้าง หลากหลาย สำหรับลักษณะบ้านไทย ประยุกต์สไตล์ล้านนามี 5 คุณสมบัติ บ้านจัดสรร เด่นที่ดูแล้วทราบในทัน คราวว่าเป็นบ้านในภาคเหนือ
ยกพื้นสูงเล็กน้อยนัก แบบบ้านล้านนา เดิมจะมีทั้งแบบบ้าน มีใต้ถุนยกสูง ในเขตที่ลุ่มหรือที่ราบ และแบบ ใต้ถุนของตัวบ้านค่อนจะต่ำ ซึ่งมักพบบนเทือกเขาหรือทิวเขา โดยความสูงของบันได บ้านที่นิยมสร้างจะมีตั้งหากแม้ กระนั้น 5 ขั้นขึ้นไป
ทำให้ลม สามารถไหลลอดผ่าน เพิ่มความเย็น ลดความร้อนได้ ช่วยคุ้มครองปกป้อง ภัยบ้านในฤดูน้ำหลาก แล้วหลังจากนั้นก็ยังคงใช้เป็นหลักที่นั่งทำงาน พัก เก็บผลิตภัณฑ์ ทางการเกษตร เป็นที่อยู่ของสัตว์เลี้ยง แต่ขณะนี้ บ้านยกพื้นสูง ไม่ค่อยเป็นที่นิยม เท่าการยกพื้นขึ้น ในระดับที่ไม่สูง เท่าไรนัก เพื่อดูร่วมยุค มากเพิ่มขึ้นแม้กระนั้นยังคงแสดง เอกลักษณ์บ้านล้านนา ให้เห็นแจ่มกระจ่าง
นิยมวางแบบ หลังคาทรงจั่วหรือ มะนิลา หลังคาเรือนล้านนาเดิม จะเป็นหลังคาจั่วหลังคา ลาดชันปกคลุมต่ำ ดูเตี้ยกว่า เรือนฝาปะกนของ ภาคกลางและไม่มีหลังคากันสาด แม้กระนั้นชายคา บ้านที่ยื่นออกมาคุ้มครองปกป้อง แสงอาทิตย์กันฝน
บ้านสไตล์ล้านนาประยุกต์ มักดีไซน์ข้างหลัง ค้างทรงจั่วหรือทรงมะนิลา (ทรงปั้นหยาที่มีจั่ว) เพื่อระบายน้ำฝน และก็อากาศร้อน ก้าวหน้า ทรงหลังคาลักษณะนี้ ก็เลยกลายเป็นหนึ่งในลักษณะ บ้านทรงไทยประยุกต์ที่นิยมใช้ ในทุกตอน
มีไม้เชิงชาย ปกปิดหลังคา เรือนไม้ล้านนา จะปิดเชิงชายให้มองดูเป็น ระเบียบเรียบร้อย ด้วยแผ่นไม้ยาวตลอดแนว ถึงแม้ว่า ในยุคหนึ่ง มีการนำเอาระเบียบปฏิบัติ กรรมวิธีตกแต่งด้วย ไม้ฉลุลายหรือไม้สลัก แบบบ้านขนมปังขิง (gingerbread) มาแต่งแต้มจั่ว หลังคาและ เชิงชาย
ซึ่งเป็นอิทธิพล ช่างไทยภาคตรงกลาง ที่แพร่หลายจากปลายรัชกาลที่ 5 ตราบจนกระทั่งรัชกาลที่ 6 ก็เลยทำให้ เริ่มมีการใช้งานแทนไม้ แผ่นเรียบ บ้านสไตล์ล้านนาประยุกต์ บางด้านหลังที่ ต้องการความรู้สึกงอนงาม ก็เลยใช้เชิงชาย แบบฉลุลายแม้กระนั้น บางด้านหลังที่ชื่นชอบความรู้สึกร่วมยุค มักใส่แผ่นไม้เรียบ
เสริมแต่ง โดยการใช้กาแล กาแลหรือกะแล เป็นส่วนแต่งแต้ม ของบ้านล้านนา แบบเรือนกาแล ที่มียอดจั่วเป็นกากบาท กาแลอยู่ตอนบนสุดของหลังคา ที่ยื่นจากรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว ลักษณะเป็นแผ่นไม้ 2 ชิ้นแย้งกัน
มีทั้งยัง ไม้แผ่นสี่เหลี่ยม ตัดปลายแหลม มาแย้งกันธรรมดาและแบบป้าย ข้อผิดพลาดคิดประดิษฐ์ สลักปลายไม้ให้ เป็นลวดลายทองคำงอนงามงาม ถ้ามุ่งมาดปรารถนา สร้างอัตลักษณ์ แบบบ้านล้านนาประยุกต์ “กาแล” เป็นองค์ประกอบหนึ่ง ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด หรือถ้าหากไม่ใส่กาแลจะใส่ เป็นแท่งไม้สี่เหลี่ยม หรือทรงกลมแต่งแต้ม ไว้ตรงส่วนยอดของจั่ว ซึ่งเรียกว่าสะระไน แทนก็ได้ด้วยเหมือนกัน
หน้าต่างบานเล็ก หรือบานชนปกป้อง อากาศหนาว หน้าต่างหรือปล่อง ในภาษาเหนือ ออกแบบบ้าน เป็นตอนฝากระดาน ที่เจาะเป็นช่องสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีทั้งแบบมีกรอบ ไม่มีกรอบ และก็แบบบานชน จุดหมายเพื่อ บ้านมีการไหลเวียนของอากาศ
รับแสงสว่าง ไปสู่ภายในแล้วหลังจากนั้นก็ มองออกนอกเรือนได้ หน้าต่างของเรือน กาแลมีขนาดเล็กราว 10×18 เซนติเมตร เว้นเสียแต่มี ขนาดเล็กแล้วยังมีจำนวนน้อยด้วย อาจจะมีการเกิดขึ้นได้ ก็เนื่องจากว่าภาคเหนืออยู่ ในละติจูดสูงอากาศค่อนข้างจะเย็น
ก็เลยคุ้มครองปกป้อง ความหนาวเข้ามา ทางช่องเปิด แต่ว่า บ้านเราในเวลานี้อากาศร้อนจัด แทบจะตลอดทั้งปี วิธีการทำหน้าต่างบานเล็ก ในจำนวนน้อยๆจะไม่สอดคล้องกับตอน อาจเปลี่ยน เป็นการใช้หน้าต่างบานชน ขนาดไม่ใหญ่มากแม้กระนั้นติดหลายบาน เพื่อการระบายความร้อน และก็การลดความ เปียกชื้นยังคงทำเป็นดี
การเลือกใช้ข้าวของหลังคาก็เป็นส่วนประกอบของบ้าน ที่สามารถจะช่วยสะท้อนภาพลักษณ์ความงามมีอิสรภาพยให้กระจ่างขึ้น อย่างกระเบื้องรุ่นพรีม่า หนึ่งในเครื่องใช้ไม้สอยมุงหลังคาที่มีรูปลักษณ์เหมาะสมกับบ้านไทยประยุกต์ ด้วยดีไซน์กระเบื้องลอนพลิ้วไหว ขนาดสั้นแค่เพียง 65 เซนติเมตร
มีรูปลอนที่ถี่ ก็เลยทำให้ผืนหลังคามองดูละเอียดอ่อนและขจุยขจายแรงก้าวหน้า ทั้งยังผลิตจากเครื่องใช้ไม้สอยเส้นใยซีเมนต์ ซึ่งมีคุณสมบัติการนำความร้อนต่ำ ช่วยลดความร้อนไปสู่ตัวบ้าน แข็งแรงทนทานต่อลมพายุแล้วก็ปลอดภัยต่อสภาพทางด้านร่างกายของผู้อาศัย
เนื่องจากว่าไม่มีองค์ประกอบของใยหิน มีให้เลือกทั้งกลุ่มสีธรรมชาติรวมทั้งกลุ่มสีทอประกาย เสริมภาพลักษณ์ให้บ้านมองน่ามอง มาพร้อมวัสดุอุปกรณ์ชุดตั้งขึ้นที่พร้อมตามมาตรฐานสมรรถนะเอสซีจี
แบบบ้านไทยประยุกต์สองชั้น ไม้ผสมปูน
- ผสมอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างกลมกลืน ฝาผนังก่ออิฐฉาบปูนถูกเพิ่มเสน่ห์ด้วยขอบประตู บานหน้าต่าง ไปจนกระทั่งไม้ระเบียงที่ยังคงความเป็นเอกราชยแบบเริ่มแรกเอาไว้ พร้อมเพิ่มความเด่นด้วยหลังคาทรงสูงเล่นระดับ
แบบบ้านไทยประยุกต์ใต้ถุนสูง หลังคาทรงจั่ว
- ตอบปัญหาการพักอาศัยแบบเริ่มแรกด้วยทรงหลังคาสูง หน้าต่างที่เปิดรับลมรอบทิศ Phuket ช่วยระบายความร้อนให้ตัวบ้าน มีใต้ถุน แล้วก็ระเบียงสระแอบ้านสามารถใช้เป็นที่ทำกิจกรรมด้วยกันของคนภายในครอบครัว
บ้านสไตล์ไทยประยุกต์ 1 ชั้น ยกพื้น
- ประสมประสานความง่ายๆสไตล์บ้านบังกะโลตัวบ้านยกสูงช่วยคุ้มครองอุทกภัย มีระเบียงห้องนอนซึ่งสามารถเปิดทางออกมารับแสงตะวัน รวมทั้งอากาศชื่นบานในตอนเช้าได้อย่างง่ายๆ
บ้านสไตล์ไทยประยุกต์ ชายน้ำ
- หลังคาที่มีลอนพลิ้วไหวงามช่วยตัดทอนความเป็นโมเดิร์นของตัวบ้าน แต่ว่าสะท้อนเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมไทยออกมาได้กระจ่างแจ้งพร้อมมองเหมาะกันกับบรรยากาศชายน้ำ เสริมด้วยหลังคาทรงสูง มีหน้าจั่วเพิ่มความสง่าผ่าเผย
*บอกเลยว่าบ้านเเต่หล่ะอย่างนั้น มีความสวยสดงดงามต่างกันออกไป ถ้าเกิดถูกใจก็อย่าลืมติดตามกันในบทความต่อๆไปด้วยนะทุกๆคน สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อน แล้วเจอะกันใหม่ในบทความหน้า