บ้านมินิมอล โมเดิร์น

บ้านมินิมอล โมเดิร์น บ้านสไตล์มินิมอล (Minimal Style) เป็นสไตล์การแต่งบ้าน ที่นิยมมาโดยตลอด และนิยมอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ด้วยสไตล์ที่เรียบง่ายดูโล่งสบายตา และใช้เฟอร์นิเจอร์ น้อยชิ้นในการแต่งบ้าน แต่ยังมีอีกหลายบ้านที่พยายามแต่งบ้านให้เป็นสไตล์มินิมอล แต่ก็ล้มเหลวทุกครั้งไป แต่งยังไงก็ไม่ได้รับกลิ่นอายความ เป็นมินิมอลเลยแม้แต่นิดเดียว

บ้านมินิมอล โมเดิร์น

บ้านโมเดิร์นมินิมอลแสนสงบ มีสวนส่วนตัวข้างใน

บ้านมินิมอล โมเดิร์น

คำว่า “ข้อจำกัด” นั้นมีอยู่ในทุกที่ทุกวงการ หากเรามองเป็นอุปสรรค ที่ทำให้รู้สึกท้อแล้วเรามือไปเสียก่อน ก็อาจจะไม่ได้รับรู้ว่าถ้าลองเปลี่ยนมุมมอง ใส่วิธีการใหม่ ๆ เข้าไปแก้ปัญหา ผลลัพธ์ที่ได้มากลับดีกว่าที่คิด ทัศนคติในการจัดการ กับข้อจำกัดจึงมีความสำคัญมากพอๆ กับการมีความรู้ความสามารถ

แม้ว่าสถานที่หรือสถานที่ จะถือเป็นข้อเสียเปรียบ เช่น ที่ดินแคบหรือที่ดินผิดรูป ที่ตั้งบนเนินไม่ราบเรียบ สภาพแวดล้อมไม่สวยงาม คนที่มีความ คิดเชิงบวกจะคิดค้น และแปลงเป็นที่ดินในเชิงบวก ในขณะที่สนุกสนาน เหมือนบ้านหลังนี้ในญี่ปุ่นที่ภายนอกดูปิด เงียบ เหมือนจะทึบ แต่ภายในกลับต่างไปอย่างสิ้นเชิง

โครงการนี้เป็น บ้านสไตล์โมเดิร์นมินิมอล ขนาดพื้นที่ 116 ตารางเมตร ดูเผิน ๆ เหมือนไม่มีปัญหาอะไร แต่จริง ๆ แล้วรูปร่างที่ดินค่อนข้างแปลกคือ เหมือนเป็นธงมีเสาตรงปลาย แม้ว่าไซต์จะเปิดทางด้านทิศใต้ แต่ก็อยู่ติดกับลานจอดรถของคอนโดมิเนียมเจ้าของบ้าน จึงไม่ต้องการที่จะเปิด ตัวอาคารไปทางด้านทิศใต้

เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว สถาปนิกจึงตัดสินใจออกแบบ อาคารที่ถูกล้อมด้วยกำแพง ที่ทำหน้าที่เป็นรั้วบ้านในตัวและจัดพื้นที่เปิดโล่งข้างในแทน นักออกแบบสร้างพื้นที่ ทางเข้ายาวมาถึงประตูที่ ทำทางเดินเข้าไปข้างใน เหมือนสอดทางเดินเข้าไปในอาคาร เป็นการแก้ปัญหา ข้อจำกัดตามสภาพของที่ดิน

บ้านมินิมอล โมเดิร์น

เมื่อเลื่อนประตูไม้ออกจะพบว่า ภายในมีช่องว่างระหว่างกำแพงกับตัวบ้าน เป็นช่องเปิดขนาดใหญ่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าไปในซอย เจ้าของบ้านจะได้ความเป็นส่วนตัว และห้องมีแสงธรรมชาติที่ แสงสว่างนุ่มนวลตลอดทั้งวัน ด้วยการใส่ช่องแสง skylight ด้านบน ทำให้บรรยากาศภายในมีความน่าสนใจ บ้าน 2 ชั้น

นอกจากนี้ พื้นที่ในซอย ยังถูกจัดให้เป็นสวนเล็ก ๆ มีประตูกระจกกั้นทำหน้าที่เบลอขอบเขตขอบ ระหว่างด้านใน และด้านนอก การออกแบบบ้านนี้จึงน่าสนุก เพราะเหมือนออกแบบภายใน และภายนอกให้แยกจากกัน แต่กลับซ่อนและสร้างสร้างพื้นที่ใช้ชีวิตอิสระไร้ขอบเขตข้างใน

การให้ความสำคัญต่อวิธีการเข้าสู่ตัวบ้าน การเชื่อมต่อระหว่างภายนอกภายใน พื้นที่ (เสมือน) กลางแจ้ง ทั้งหมดจะทำให้ผู้อยู่อาศัยและผู้มาเยือนสามารถใช้เวลาอย่างสบาย และปรับปรุงคุณภาพชีวิตประจำวัน ของพวกเขาได้ง่าย สอดคล้องกับความต้องการ และเหมาะสม กับสภาพแวดล้อมด้วย

Mood&Tone ของบ้าน เน้นที่ความเรียบง่าย สงบ ผ่อนคลาย เหมือนได้อยู่กับธรรมชาติ ที่ไม่ต้องปรุงแต่งมากมาย ดังที่เราจะเห็นจากการเลือกใช้วัสดุไม้เป็นองค์ ประกอบหลักของบ้าน ทั้งในส่วนวัสดุปูพื้น กรอบประตูหน้าต่าง และเฟอร์นิเจอร์ ที่ไม่มีอะไรเกินความจำเป็น จึงเหมือนเป็นพื้นที่หลบภัย ที่นั่งสงบอย่างมีสมาธิในทุกจุด

บ้านเน้นที่ความเรียบง่าย สงบ ผ่อนคลาย เหมือนได้อยู่กับธรรมชาติ

ลองนึกภาพตามว่าบริเวณ บ้านระนาบเดียวกับเสาไม้นั้น เป็นผนังก่อปิดทึบ แล้วใส่หน้าต่างประตู เหมือนที่เราเห็นในบ้านทั่วไป ความรู้สึกของบ้านจะต่างกับภาพ ที่เห็นอย่างสิ้นเชิง จากความโปร่ง กว้าง สว่าง เต็มไปด้วยความสบาย จะกลายเป็นแคบ ทึบ จำกัด ลองเลือกสิ่งที่ชอบ มองภาพที่ต้องการเห็นภายใน แล้วนำไปคุยกับสถาปนิกกัน ดูเพื่อจะได้เป็นเจ้าของบ้านที่น่าอยู่แบบนี้กันนะ

ในพื้นที่แคบหรือมีข้อจำกัด ตรงที่มีเพื่อนบ้านรายล้อมติด ๆ กัน อาจทำให้ไม่สามารถใส่ช่องแสง ด้านข้างได้ หากภายในก่ออิฐปิดทึบแบบบ้านทั่วไป บ้านก็ยิ่งอึดอัดมากขึ้นไป ปัจจุบันมีแนวคิดการแก้ปัญหาใหม่ ๆ เช่น การทำระบบผนังบ้านสองชั้น โดยทำกำแพงชั้นสองสูง ๆ เป็นชั้นนอก แล้วเว้นระยะห่างเป็นทางเดิน จากนั้นใส่ผนังบ้านชั้นในวัสดุกระจก หรือประตูหน้าต่างที่พับเก็บเข้าด้านข้างได้หมด จะช่วยเปิดบ้านให้ดูเหมือน ไม่มีผนังจะทำให้ บ้านมีความกว้างขึ้นอย่างอิสระ

เทคนิคแต่งบ้านสไตล์มินิมอล แต่งยังไงให้สวยน่าอยู่

1.เลือกใช้ 2 สี กำลังพอดีและดูดี โดยเน้นสีโทนอ่อน
ในการแต่งบ้านสไตล์มินิมอล เทคนิคที่ขาดไม่ได้เลยคือการเลือกใช้สี ซึ่งสีส่วนใหญ่ที่แนะนำและนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ควรเป็นสีโทนอ่อน หรือสีเอิร์ธโทน อย่างเช่น สีขาว สีน้ำตาล สีเบจ สีเขียว สีฟ้า โดยเลือกใช้สีหลัก ๆ ได้เพียง 2 สี ถ้ามากกว่านั้น อาจเป็นสีที่นำมาตกแต่งเพียงเล็กน้อย ให้ห้องดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ซึ่งจะได้กลิ่นอายของความเรียบง่าย และความอบอุ่นเมื่อได้อาศัยอยู่ในพื้นที่แห่งนี้

2.เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น เน้นฟังก์ชันและดีไซน์
ขึ้นชื่อว่าความมินิมอล คือ การตกแต่งบ้านแบบน้อยชิ้น แต่งน้อยแต่แต่งนะ ตามแนวคิด Less is More หรือตกแต่งเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น แต่มากด้วยประโยชน์ในการใช้งาน และเท่าที่จำเป็น โดยมุ่งเน้นไปที่ รูปแบบดีไซน์ของเฟอร์นิเจอร์ ที่เลือกใช้ ให้ดูดี แปลกตา มีสไตล์ อีกทั้งยังช่วยให้ ห้องดูโล่งโปร่งสบาย ใครแวะมาเยี่ยมก็ล้วนอยาก อยู่อาศัยที่นี่ทุกคน เพียงใช้เทคนิคนี้ก็เปลี่ยนห้องสไตล์มินิมอล ของเราให้ไม่ธรรมดาอีกต่อไป

3.แสงแดดส่องผ่าน ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศในบ้านได้
การแต่งบ้านสไตล์มินิมอล เน้นความอบอุ่น แสงสว่างมีส่วนอย่างมาก ในการสร้างบรรยากาศ และสามารถเปลี่ยนอารมณ์ของผู้อยู่อาศัยในบ้านหลังนี้ได้ โดยการเน้นเปิดรับแสงสว่าง แสงแดดที่มาจากธรรมชาติ แต่หากกลัวว่าจะแสบตา หรือมีแสงที่สว่างเกินไป สามารถใช้ผ้าม่านโปร่งแสง ช่วยกรองแสงอาทิตย์ได้ เพียงเท่านี้บ้านของคุณก็จะดูโล่ง โปร่งสบายสไตล์มินิมอลขึ้นมาทันที

แต่งบ้านสไตล์มินิมอล

4.จัดระเบียบให้มีพื้นที่ว่าง โล่งภายในบ้านให้มากที่สุด
อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น การแต่งบ้านสไตล์มินิมอล เน้นถึงพื้นที่โล่ง เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น และเน้นประโยชน์ของการใช้สอยเป็นส่วนใหญ่ แน่นอนว่าไม่มีใครที่ชอบอยู่บ้านที่รก แคบ เดินลำบาก มองไปทางเน้นก็มีแต่ของแน่นไปหมด ใครที่อยากแต่งบ้านสไตล์มินิมอล

แต่มีของเยอะแนะนำให้หากล่องจัดระเบียบ จัดเก็บข้าวของให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เป็นสัดส่วน เพียงแค่นี้ก็พอจะทำให้ห้องของคุณก็จะดูกว้างขึ้น และเข้าใกล้กลิ่นอาย ของความเป็นมินิมอลมากขึ้น และการมีพื้นที่กว้างโล่ง นอกจากจะรู้สึกสบายตาแล้ว ยังส่งผลต่อการความปลอดภัย ของผู้อยู่อาศัยในบ้านอีกด้วย

5.วัสดุที่ใช้เน้นโลหะหรือวัสดุไม้เป็นหลัก อาจตกแต่งเพิ่มเติมด้วยต้นไม้
การแต่งบ้านสไตล์มินิมอลอย่างที่บอก มีทั้งสไตล์มินิมอลแบบลอท์ฟ สไตล์มินิมอลแบบโมเดิร์น หรือสไตล์มินิมอลแบบมูจิ แต่ไม่ว่าจะเป็นสไตล์มินิมอลแบบไหน ก็ยังคงรูปแบบน้อยชิ้นอยู่เช่นเดิม ซึ่งวัสดุในการแต่งสไตล์ นี้จะนิยมเลือกใช้ไม้ หรือโลหะอย่างใดอย่างหนึ้ง ซึ่งจะได้ความรู้สึกกันคนละแบบ ความเป็นไม้จะทำให้ รู้สึกอบอุ่นสบายตา แต่ถ้าเป็นโลหะก็จะได้กลิ่นอายมินิมอลที่เท่ ๆ แนวดิบ ๆ เล็กน้อย ซึ่งสามารถแต่งได้ทั้งสองแนว ตามความชอบส่วนบุคคล